กศน.ตำบลบ้านซ่ง
วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
กศน.ตำบลบ้านซ่ง
ข้อมูลพื้นฐานทั่วไป
ประวัติความเป็นมาของตำบลบ้านซ่งเดิมชาวบ้านตำบลบ้านซ่ง
มีรากฐานมาจากประเทศลาว
เมืองสะหวันณะเขต หลังจากบ้านเมืองเกิดสงคราม มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก ชาวบ้านส่วนหนึ่งจึงพากันอพยพ
มาตั้งถิ่นฐานอยู่บ้านตำบลบ้านซ่ง
และชาวบ้านส่วนใหญ่ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่ตำบลบ้านซ่งนั้น เป็นชนเผ่ากะเลิง ยังมีการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์คือ ชุดสีดำ แถบแดง
มีประเพณีที่สืบทอดกันมาที่เป็นเอกลักษณ์ คือ การฟ้อนผีหมอเหย้า
และซึ่งลักษณะประเทศส่วนใหญ่ในตำบลบ้านซ่งเป็นโคก
เป็นป่า ชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อว่า “บ้านซ่ง” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ประวัติบ้านโพธิ์ศรี
หมู่ ๔
บ้านโพธิ์ศรี หมู่ที่ ๔ ตำบลบ้านซ่ง เป็นชนเชื้อสายเผ่ากะเลิง ได้ย้ายถิ่นฐานอพยพมาจากแขวงสะหวันณะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประมาณ ๔๐๐ ปีมาแล้ว
โดยการนำของหลวงพ่อละคำ
ส่วนชื่อของหมู่บ้านมาจากที่แต่เดิมมีต้นโพธิ์ขนาดใหย่กลางหมู่บ้านและมีหนองน้ำขนาดใหญ่ท้ายหมู่บ้าน มีชาวบ้านเรียกตามกันมาช้านานมา “บึงภูฮี” ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บึงโพธิ์ศรี” และเป็นที่มาของหมู่บ้าน
ปัจจุบันมีผู้ใหญ่บ้านรวมทั้งสิ้น ๘ คน
โดยปัจจุบันผู้นำทางการปกครองคือ นายคำปอน
รูปเหมาะ กำนันตำบลบ้านซ่ง
รากเหง้าชาวกะเลิง
บรรพบุรุษเป็นชนเชื้อสายกะเลิงซึ่งเป็นชาวกลุ่มน้อยที่เป็นชาติพันธุ์
ทางภาษากลุ่มหนึ่ง
เช่นเดียวกับชนกลุ่มญ้อโส้
ผู้ไทยและเวียดนาม ซึ่งมีอยู่ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร
กะเลิงมีถิ่นฐานเดิมอยู่ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ชนกลุ่มกะเลิงได้อพยพมาตั้งแหล่งอยู่ในประเทศไทยเมื่อประมาณ ๑๐๐
ปีเศษ
ตั้งแต่มีการปราบเจ้าอนุวงศ์ในรัชกาลที่
๓ และมีการอพยพครั้งใหญ่ ในสมัยรัชกาลที่ ๕
เมื่อเกิดศึกกบฏฮ่อในปี พ.ศ. ๒๔๑๖ ปัจจุบันมีชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเลิงในประเทศไทย
ที่จังหวัดนครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์
มุกดาหาร วิธีการดำเนินชีวิตของชาวกะเลิง
เหมือนกับชาวอีสานทั่วไป คือ ยึดถือฮีตสิบสอง ครองสิบสี่
เป็นหลักในการดำเนินชีวิต และมีคติความเชื่อถือในเรื่องผี
นับถือผีมเหสักข์หลักบ้าน วิญญาณบรรพบุรุษ ผีตาแหก ผีป่า ผีเขา
สมัยก่อน นิยมสักเป็นรูปนกที่แก้มดังผญาว่า สักนกน้อยงอย แก้มตอดขี้ตาสักนกน้อยงอยแก้มจั่งงาม
ปัจจุบันยังพบชายชาวกะเลิง สักลายที่ขาและตามตัวบ้าง แต่ก็มีการสักรูปนกที่แก้ม
ชายชาวกะเลิงในปัจจุบันแต่งกายเหมือนชายชาวอีสานทั่วไป
หญิงชาวกะเลิงในสมัยก่อนแต่งกายโดยนุ่งผ้าซิ่นมัดหมี่มีเชิง ไม่สวมเสื้อ ใช้แพรเบี่ยงโต่งในเวลามีงานปกตินิยมเปลือยหน้าอกซึ่งเรียกว่า ปละนม
ไว้ผมยาว
และผมมวยสวมกำไลข้อมือ ข้อเท้า และตุ้มหูเงิน
นิยมทัดดอกไม้
ประเทืองผมด้วยขมิ้น
ทาหน้าด้วยหัวกลอยและข้าวสาร
บางคนนิยมมาถูฟันให้ดำงาม
สวมรองเท้าที่ประดิษฐ์เองใช้วัสดุในท้องถิ่น เช่น
ไม้ หนังสัตว์ กาบหมาก
ภาษากะเลิงจัดอยู่ในตระกูลภาษาไท เช่นเดียวกับภาษาผู้ไทย ภาษากะเลิงไม่มี ฟ ใช้ พ แทน
เช่น ไพพ้า (ไฟฟ้า) ไม่มี
ฝ ใช้ ผ
แทน เช่น ผาด (ฝาด) ไม่มี
ร ใช้ ล
แทน ฮ แทน
เช่น ลำ (รำ)
ฮกเฮื้อ (รกเรื้อ) ไม่มี
ช ใช้ ซ แทน
เช่น ซม (ชม)
มีอักษรควบใช้เป็นบางคำ เช่น ขว้าม
(ข้าม) สวาบ (สวบ)
กินอย่างมูมมาม
ผู้นำชุมชน
ในตำบลบ้านซ่ง
หมู่
|
ชื่อบ้าน
|
ประชากร
|
ชื่อผู้ใหญ่บ้าน
|
|
ชาย
|
หญิง
|
|||
หมู่ที่ ๑
|
บ้านนาสีนวล
|
P
|
-
|
นายชาติชาย อาจหาญ
|
หมู่ที่ ๒
|
บ้านซ่ง
|
P
|
-
|
นายสมหมาย ชาวนา
|
หมู่ที่ ๓
|
บ้านโนนสังข์ศรี
|
P
|
-
|
นายประมวน บุสภา
|
หมู่ที่ ๔
|
บ้านโพธิ์ศรี
|
P
|
-
|
นายคำปอน รูปเหมาะ
|
หมู่ที่ ๕
|
บ้านโนนก่อ
|
P
|
-
|
นายสมจิตร ศรีหาวงค์
|
หมู่ที่ ๖
|
บ้านซ่ง
|
P
|
-
|
นายใส สุภาพันธ์
|
หมู่ที่ ๗
|
บ้านโนนสังข์ศรี
|
P
|
-
|
นายถ่าย ขำคม
|
รวม
|
๗
|
-
|
|
ศาสนสถาน
ที่
|
ประเภท
|
ชื่อศาสนสถาน
|
ชื่อเจ้าอาวาส
/ สำนักสงฆ์
|
|
วัด
|
สำนักสงฆ์
|
|||
๑.
|
๑
|
-
|
วัดศรีวิรัญญา
|
พระครูประภาต ธรรมโกศล
|
๒.
|
๒
|
-
|
วัดจุฬาวิเวก ,วัดสามัคคีธรรม
|
ครูบาพร,พระครูเสถียร
กันทโร
|
๓.
|
๑
|
-
|
วัดศรีโพธิ์ไทร
|
พระเสนอ กิตติวันโณ
|
๔
|
๑
|
๑
|
วัดศรีสะอาดสงคราม , สำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านโพธิ์ศรี
|
พระอธิการคณิต
วชิรณาโณ, ครูบาพรชัย
|
๕.
|
๑
|
-
|
วัดสว่างเวฬุวัน
|
พระอธิการคูณ กิตติคุโณ
|
๖.
|
-
|
-
|
-
|
-
|
๗.
|
-
|
-
|
-
|
-
|
F
ลักษณะที่ตั้งและอาณาเขต
ตำบลบ้านซ่ง มีเนื้อที่ประมาณ ๑๙,๙๙๖ ไร่ หรือประมาณ ๓๑ตร.กม. ตั้งอยู่ทางทิศ
ตะวันออกเฉียงเหนือของอำเภอคำชะอี
และตั้งอยู่ห่างจากอำเภอคำชะอี ระยะทาง ๒
กิโลเมตร
และอยู่ห่างจากจังหวัดมุกดาหาร ระยะทาง
๓๓ กิโลเมตร
มีอาณาเขตดังนี้(รูปที่ ๑)
F ภูมิประเทศ
สภาพภูมิประเทศมีลักษณะเป็นพื้นที่ลอนลูกคลื่นสลับกับพื้นที่ราบลุ่ม
ทางทิศตะวันตกมีภูเขาลาดเอียงไปทางทิศตะวันออก
F ภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศของของตำบลบ้านซ่งจัดอยู่ในลักษณะภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน
ซึ่ง
แบ่งได้ ๓ฤดู คือ ฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม
โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่านทะเลและมหาสมุทร
ทำให้มีอากาศชุ่มชื้นและฝนตกชุกและยังได้รับอิทธิพลความชุ่มชื้นแถบบริเวณลุ่มน้ำโขงอีกด้วย
ส่วนฤดูหนาวจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
ซึ่งจะพัดเอาความหนาวเย็นและความแห้งแล้งมา
สำหรับฤดูร้อนจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนซึ่งจะมีอากาศร้อนและอบอ้าว
F เขตการปกครอง
อาณาเขตทางทิศเหนือ
ติดต่อกับ ตำบลหนองเอี่ยน
อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
อาณาเขตทางทิศใต้
ติดต่อกับ อำเภอคำชะอี
จังหวัดมุกดาหาร
อาณาเขตทางทิศตะวันออก ติดต่อกับ
ตำบลเหล่าสร้างถ่อ อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
อาณาเขตทางทิศตะวันตก ติดต่อกับ
ตำบลน้ำเที่ยง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
๒. สภาพทางสังคม – ประชากร
F จำนวนหมู่บ้าน มีทั้งหมด ๗
หมู่บ้าน รวม ๙๕๒ครัวเรือน
ดังนี้
๑. บ้านนาสีนวล หมู่ที่ ๑จำนวนครัวเรือน ๘๓ ครัวเรือน
๒. บ้านซ่ง หมู่ที่ ๒ จำนวนครัวเรือน ๒๔๙ ครัวเรือน
๓. บ้านโนนสังข์ศรี หมู่ที่
๓จำนวนครัวเรือน ๙๖ ครัวเรือน
๔. บ้านโพธิ์ศรี หมู่ที่ ๔จำนวนครัวเรือน ๑๕๘ ครัวเรือน
๕. บ้านโนนก่อ หมู่ที่ ๕จำนวนครัวเรือน ๗๓ ครัวเรือน
๖. บ้านซ่ง หมู่ที่ ๖จำนวนครัวเรือน ๑๔๓ ครัวเรือน
๗. บ้านโนนสังข์ศรี หมู่ที่
๗ จำนวนครัวเรือน๑๕๐ ครัวเรือน
F
จำนวนประชากร
*จำนวนประชากรทั้งหมด ๔,๑๖๑คน
แยกเป็น ชาย ๒,๐๖๖คน
หญิง ๒,๐๙๕คน
หมู่บ้าน
|
จำนวนประชากร(คน)
|
รวม
|
|
ชาย
|
หญิง
|
||
บ้านนาสีนวล หมู่ที่
๑
บ้านซ่ง หมู่ที่ ๒
บ้านโนนสังข์ศรี หมู่ที่ ๓
บ้านโพธิ์ศรี หมู่ที่ ๔
บ้านโนนก่อ หมู่ที่ ๕
บ้านซ่ง หมู่ที่ ๖
บ้านโนนสังข์ศรี หมู่ที่ ๗
|
๑๙๑
๔๑๒
๒๔๐
๓๗๙
๑๘๙
๓๐๔
๓๕๑
|
๑๖๕
๔๔๗
๒๓๗
๓๘๖
๑๘๖
๓๐๐
๓๗๔
|
๓๕๖
๘๕๙
๔๗๗
๗๖๕
๓๗๕
๖๐๔
๗๒๕
|
รวม
|
๒,๐๖๖
|
๒,๐๙๕
|
๔,๑๖๑
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)